กระ (Freckle) มีลักษณะการเกิดคล้ายกับฝ้าคือ เม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ทำงานผิดปกติ จึงทำให้สีผิวบริเวณนั้นมีสีน้ำตาลหรือสีดำเป็นจุดเล็กๆ พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีผิวขาว ปรากฎตามใบหน้า ลำคอหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อยๆ อาจมีสีเข้มขึ้นและกระจายพื้นที่ใหญ่ขึ้นได้เมื่อถูกกระตุ้น โดยกระสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ กระตื้น กระลึก กระเนื้อ
- กระตื้น เป็นกระที่พบบ่อยในชาวยุโรป มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักพบบริเวณที่สัมผัสแสงแดดมาก เช่น โหนกแก้ม หรือจมูก บางรายอาจกระจายทั่วหน้า ลำคอ แขน และหน้าอก กระตื้นเกิดจากเซลล์เม็ดสีใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ โดยสาเหตุที่เซลล์เม็ดสีทำงานผิดปกตินั้นส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมที่ทำให้เซลล์เม็ดสีมีความไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ ทำให้มีกระตั้งแต่วัยเด็ก ผู้ที่เป็นกระชนิดนี้ หากสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำโดยไม่มีการป้องกันอย่างเหมาะสม ก็มีโอกาสทำให้กระเข้มขึ้น เพิ่มจำนวนมากขึ้น และขยาย
- กระลึก กระลึก เป็นกระที่พบบ่อยในชาวเอเชีย โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น จีน และไทย ลักษณะของกระลึก เป็นจุดเล็กๆ หรือเป็นแผ่นสีน้ำตาล เทา ดำ ขอบไม่ชัด มองเผินๆ คล้ายฝ้า มักพบบริเวณโหนกแก้ม สันจมูก หรือขมับทั้ง 2 ข้าง กระลึกนั้นเกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีบริเวณชั้นหนังแท้ โดยจะพบตั้งแต่แรกเกิด และจะถูกกระตุ้นด้วยรังสียูวีจากแสงแดดร่วมกับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นช่วงวัยรุ่น หรือช่วงตั้งครรภ์ ทำให้เห็นกระชัดเจนขึ้นในช่วงอายุที่มากขึ้น
- กระเนื้อ กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลเข้ม มักพบบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก และหลัง โดยอาจขึ้นเป็นตุ่มเนื้อเล็กๆ แล้วค่อยขยายใหญ่ขึ้น นูนขึ้น หรือมีสีเข้มขึ้นได้ แต่เจริญเติบโตค่อนข้างช้า กระเนื้อนั้นเกิดจากผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเจริญเติบโตมากผิดปกติ มีตัวกระตุ้นคือ แสงแดดและอายุที่มากขึ้น โดยยิ่งมีอายุมากขึ้น กระเนื้อจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีจำนวนมากขึ้นด้วย
- กระแดด กระแดด มีลักษณะเป็นจุด หรือปื้นเรียบๆ สีน้ำตาล หรือสีดำ ขนาดเล็ก ขอบชัด มักพบบริเวณที่สัมผัสแสงแดดบ่อยๆ เช่น ใบหน้า แขน หรือขา ส่วนใหญ่เกิดในผู้ที่มีผิวขาว และมีอายุค่อนข้างมาก สาเหตุเกิดจากการได้รับแสงแดดแรงๆ จากการเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในบางครั้งอาจเกิดจากผลข้างเคียงของการรักษาโรคอื่นๆ เช่น การรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยการฉายแสง UVA ก็มีผลทำให้เกิดกระแดดได้เช่นกัน